บทที่ 3 เคล็ดลับมหาเศรษฐีขอบคุณบทความดีๆ จาก http://www.eclubthai.com
ที่หน้าคฤหาสสวยหรู ใหญ่โตมโหราฬ
หนุ่มน้อยชาวนาถูกกันอยู่ที่หน้
รปภ.เองก็คิดหนัก เมื่อชาวนาแจ้งความประสงค์ในการ
เพราะสารรูปของคนที่มาขอพบเศรษฐ
ดูไม่ได้เอาเลยจริงๆ...
อย่าว่าแต่จะให้เข้าไปพบท่านเศร
จะโทรเข้าไปบอกเขาก็ยังไม่กล้าด
กลัวโดนไล่ออกจากงาน โทษฐานเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องรา
กรี๊งงงงง.... กริ๊งงงงงงง
เสียงโทรศัพท์ในป้อมยามดังขึ้น
รปภ.รีบเข้าไปรับสายอย่างรวดเร็
คนสนิทของท่านเศรษฐีโทรมาบอก รปภ. ว่า จะมีแขกมาหาท่านเศรษฐี
ให้อนุญาตเขา เข้ามาได้...
รปภ.วางหูโทรศัพท์เสร็จ ก็ออกมายืนงงๆ อยู่ด้านหน้า
พร้อมกับจ้องมองดูหนุ่มน้อยชาวน
"ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าคุณเป็นคนที่ท่านเศรษฐีรอพบอ
เห็นแต่งตัวมอซอแบบนี้... ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ
งั้น เชิญเข้าไปได้เลยครับ..."
"คุณ วรเทพ หรือเปล่าครับ..."
คนสนิทของท่านเศรษฐี มองมาทางหนุ่มน้อยชาวนาพร้อมกับ
"เปล่าครับ..." หนุ่มน้อยชาวนาตอบ
"อ้าว... แล้วนี่ใครปล่อยให้คุณเข้ามาล่ะ
"ก็... คนที่อยู่หน้าประตู บอกผมว่า ท่านเศรษฐีรอพบผมอยู่น่ะครับ
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าท่านรู้ไ
"ท่านรอพบคุณ วรเทพ อยู่ ไม่ได้รอพบคุณ"
"ถ้าอย่างนั้น ผมขอพบท่านเศรษฐีหน่อยจะได้ไหมค
"ไม่ได้หรอก... ถ้าไม่ได้นัดไว้ ก็ให้พบไม่ได้"
คนสนิทยืนยันแข็งขันที่จะไม่ให้
"ขอให้ผมได้พบท่านเศรษฐีหน่อยเถ
หนุ่มน้อยชาวนาพยายามวิงวอน
"ไม่ได้จริงๆ ครับ... ผมทำตามหน้าที่น่ะครับ
ถ้าไม่ได้นัดไว้ ผมให้เข้าพบท่านไม่ได้จริงๆ..."
คนสนิทยังคงยืนกรานเสียงแข็ง
"มีอะไรกันเหรอ..." ชายสูงอายุ ท่าทางภูมิฐานเอ่ยขึ้น
คนสนิทท่านเศรษฐี ท่าทีเปลี่ยนไปเป็นนอบน้อม เอ่ยขึ้นว่า
"ผู้ชายคนนี้ เขาพยายามจะขอเข้าพบท่านให้ได้น
ผมเห็นว่าไม่ได้นัดท่านไว้ ก็เลยกำลังจะให้กลับออกไปครับ"
คนสนิทรีบเดินเข้ามาหาหนุ่มน้อย
"อืมมมม.. เดี๋ยวก่อน..." ท่านเศรษฐีเอ่ยขึ้น
"เธอเป็นใคร มาจากไหนล่ะ พ่อหนุ่ม"
ท่าทางท่านเศรษฐีเป็นคนใจดีกว่า
ชายหนุ่มรีบเล่าเรื่องทั้งหมดให
.................... ......................... ..............................
"เอางี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวเธอตามคนสนิทของฉัน
ไปรอฉันที่ห้องรับแขกทางโน้นก่อ
อีกสักครู่ คุณ วรเทพ จะมาคุยธุระกับฉัน
เสร็จแล้ว ฉันจะไปคุยกับเธอ..."
กล่าวจบ ท่านเศรษฐีก็หันไปหาคนสนิท
และสั่งให้จัดเตรียมของว่างมาต้
ที่ห้องรับแขก หลังจากหนุ่มน้อยชาวนานั่งรออยู
ท่านเศรษฐีก็เดินเข้ามาหาเขา
"เธอกล้ามากเลยนะ ที่มาขอพบฉัน" เศรษฐีเอ่ยขึ้น หลังจากนั่งลงที่เก้าอี้แล้ว...
หนุ่มน้อยชาวนารู้สึกงงเล็กน้อย
มันต้องใช้ความกล้ากันเชียวหรือ
ใครๆ ต่างก็ไม่กล้ามาขอพบท่านเศรษฐีแ
ดีนะที่เราไม่ได้คิดอะไรมาก อยากมาหาก็มาเลย
"ขอบพระคุณท่าน ที่ให้โอกาสผมครับ"
ชายหนุ่มยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน
"ไม่เป็นไร... เห็นครั้งแรก ฉันก็รู้สึกถูกชะตากับเธอแล้วล่
ยิ่งพอได้ฟังเรื่องที่เธอเล่า ฉันก็ยิ่งสนใจ" เศรษฐีหยุดคิดนิดหนึ่ง
"ที่เธอมาหาฉัน เธอคิดว่าจะมาทำไมเหรอ"
"ผมนอนคิดมาทั้งคืนแล้ว ไม่มีทางไหนเลย
ที่ผมจะรวยขึ้นมาได้ ในระยะเวลาเพียงหนึ่งปี
นอกเสียจาก..." ชายหนุ่มนิ่งไป...
"เธอคงกำลังหมายถึง นอกเสียจากมีเคล็ดลับ ใช่ไหมล่ะ"
เศรษฐีเอ่ยขึ้น
"ใช่แล้วครับ... มันจะต้องมีเคล็ดลับอะไรแน่ๆ
ที่ทำให้คนบางคนรวยขึ้นมาได้ และผมก็ไม่มีเวลา
ที่จะค้นหามัน ผมเลยตั้งใจมาขอความกรุณาจากท่า
เพื่อแนะนำเคล็ดลับนั้นให้ผมบ้า
"5555... เธอนี่ใจถึงจริงๆเลย แบบนี้ฉันชอบ"
เศรษฐีหัวเราะออกมาดังๆ พร้อมกับเอ่ยชมเชยเขา
"ดีเหมือนกัน ฉันจะได้มีโอกาสทดสอบเคล็ดลับขอ
ฉันใช้เวลาทั้งชีวิต เพื่อสร้างความร่ำรวย
จนฉันได้ล่วงรู้ความลับหลายข้อ
ที่ทำให้คนบางคนรวยได้และคนบางค
ชายหนุ่มได้ฟังดังนั้น ถึงกับดีใจสุดขีด
เพียงเพราะความคิดแค่อยากมาพูดค
ไม่ได้คราดหวังอะไรมากนัก แต่สิ่งที่เขาได้จากการตัดสินใจ
กลับนำมาซึ่งสิ่งที่ยิ่งใหญ่มหา
"เราจะมาดูกันซิว่า... ในเวลาหนึ่งปี เธอ กับ เคล็ดลับของฉัน จะไปได้ถึงไหนกัน"...
เศรษฐี เอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
"ท่านบอกมาได้เลยครับ... ผมยินดีทำตามทุกอย่าง"
ชายหนุ่มกล่าวตอบท่านเศรษฐี ด้วยหัวใจมุ่มมั่นเช่นกัน
"เอาล่ะ..."ท่านเศรษฐีไม้เท้าทอ
"ก่อนจะเริ่มลงมือทำอะไร
เราจะต้องมาเสียเวลาเรียนรู้อะไ
ซึ่งมันเป็นความสำคัญต่อความสำเ
ชายหนุ่มตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่
"เธอรู้ไหมว่า ทำไมคนบางคนจึงรวย และทำไมคนอีกบางคนจึงไม่รวย" เศรษฐีถามขึ้น...
"ตอนอยู่บ้านนอก ผมไม่รู้ครับ แต่หลังจากผมเข้าเมืองมา ผมรู้อยู่ข้อหนึ่งคือ"
ชายหนุ่มนึกไปถึงแม่ค้าขายของ เจ้าโยลูกจ้าง และหลวงพี่เปี๊ยกอยู่ในใจ...
"เพราะเขาไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรดี
ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ค่อยมั่นใจน
"ถูกต้อง..."เศรษฐีตอบด้วยเสียง
"แต่สิ่งที่เธอตอบมานั้น มันมีสาเหตุ..." เศรษฐีหยุดเว้นช่วงนิดหนึ่ง ก่อนจะพูดต่อว่า
"แล้วทำไมเธอจึงไม่ทำไร่ไถนาอยู
"ก็... ผมต้องรวยที่สุดในเมืองนี้ภายใน
"แล้วเธอรู้หรือยังว่าจะทำอะไรจ
ชายหนุ่มนิ่งไปอึดใจหนึ่ง ก่อนจะตอบมาว่า
"ยังเลยครับ..."
"แล้วทำไมเธอจึงเลิกทำนาก่อนที่
ทำไมจึงไม่ทำนาไปแล้วก็หาหนทางไ
"เพราะผมมีเวลาไม่มากนี่ครับ"
"แสดงว่าคนอื่นๆ เขาคิดว่าเขามีเวลามากล่ะสิ
จึงค่อยๆ หาไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ"
"คงเป็นแบบนั้นมั้งครับ..." ชายหนุ่มตอบแบบไม่มั่นใจนัก
"งั้นเธอจงตั้งใจฟังเรื่องที่ฉั
"สิ่งแรกที่สุดเลยก็คือ... ความฝัน" เศรษฐีพูดอย่างตั้งใจ
"ต่างคนก็ต่างมีความฝันของใครขอ
บางคนก็อยากมีชีวิตที่พออยู่พอก
บางคนก็อยากใช้ชีวิตสงบสบาย ท่ามกลางสวน
บางคนก็ขอให้มีงานทำ มีครอบครัวที่อบอุ่น
และบางคนก็อยากร่ำรวยมหาศาล..."
เศรษฐีมองหน้าชายหนุ่ม ก่อนจะพูดต่อว่า
"ไม่ว่าจะเป็นอะไร นั่นมันก็เป็นความฝันของใครของม
คนที่ไม่ได้ฝันว่าจะร่ำรวย เขาก็ไม่ได้เดินบนถนนที่จะนำพาใ
แต่พวกเขาก็ยังเดินอยู่บนเส้นทา
รวมทั้งเดินไปด้วยความสุขใจที่ ความฝันเป็นจริง"
ชายหนุ่มยังคงตั้งใจฟังอย่างใจจ
"ความสุขที่เกิดจากความรู้จักพอ
เป็นความสุขที่น่าอิจฉา ถึงแม้ว่าจะเหนื่อยกาย
แต่จิตใจก็สบาย แต่ก็จะมีบางคนที่อยู่อย่างพอเพ
ไม่รู้จักประมาณตนเอง ชีวิตก็จะเดือดร้อน
หาเงินมาได้ก็เป็นค่าผ่อนโน่นผ่
ทั้งๆที่วัตถุนิยมเหล่านั้น มันไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นในการยัง
แต่มันจำเป็นสำหรับหน้าตา... แล้วก็พากันนำเงินที่จะได้ในอนา
เอามาใช้ในปัจจุบัน ถึงแม้จะต้องเสียดอกเบี้ยก็ยอม
เขาจะมีความสุขกว่านี้ หากมีสิ่งเหล่านั้น ตามความเป็นจริง
ตามการประมาณตนเองว่าตอนนี้เขาค
เศรษฐีหยุดนิดหนึ่ง ก่อนจะพูดต่อไปว่า
"เธอไม่จำเป็นต้องเชื่อฉันก็ได้
ซึ่งมันอาจจะผิดก็ได้"
"ผมอยากฟังต่อครับ" ชายหนุ่มพยักหน้ารับทราบ
"หลายๆ คนจึงอยู่อย่างไม่มีความสุข ทั้งๆที่เขาสามารถมีความสุขได้.
เศรษฐีพูดต่อ
"เรามาดูอีกกลุ่มหนึ่งคือ
กลุ่มที่มีความฝันว่าอยากรวย
แต่ก็ไม่สามารถที่จะรวยได้...
หลายๆ คนในกลุ่มนี้ เกิดจากการวางแผนผิด
รู้ก็ทั้งรู้ว่า การจะรวยได้ จำเป็นจะต้องเอาเงินไปต่อเงิน
ลำพังเพียงแค่การใช้แรงกายแลกเง
มันไม่สามารถทำให้ร่ำรวยได้หรอก
ทุกคนเกิดมาก็มี 24 ชั่วโมงเท่ากันหมด
คนที่รวยได้ เขาไม่ได้มีเวลามากกว่าคนอื่นเล
แต่เขาสามารถบริหารเงินและเวลาข
"แล้วทำไมคนที่ไม่รวย เขาจึงไม่ทำในแบบที่จะทำให้รวยล
ชายหนุ่มสงสัย...
"เขาไม่สามารถเอาชนะใจตัวเองได้
เขาไม่สามารถเอาชนะสิ่งที่มายั่
เศรษฐีตอบ
"อะไรหรือครับ คือสิ่งที่มายั่วยวน" ชายหนุ่มถาม
"ก็พวกวัตถุนิยมนั่นแหล่ะ
ทำงานหาเงินมาได้ เหลือจากหักค่าใช้จ่ายแล้ว
มันเหลือพอที่จะผ่อนรถได้ เขาก็เอาไปผ่อนรถ
เอาไปผ่อนบ้าน บางคนก็ใช้จ่ายแบบสุรุ่ยสุร่ายก
ชายหนุ่มทำหน้างงนิดๆ
"บางครั้งวางแผนผิด ไม่ได้เผื่อเหตุสุดวิสัยไว้
เมื่อถึงคราวเหตุสุดวิสัยขึ้นมา
เวลาที่พอมีเหลือ ก็ต้องเอาไปทำงานหาเงินมาใช้หนี
ในที่สุดก็จะติดกับดักอยู่ตรงนั
เงินที่หามาได้ก็หมดไปกับรายจ่า
เวลาที่จะใช้หาเงินเพิ่มก็หมด เงินที่ควรจะนำมาต่อเงินก็หมด
และที่หมดไปเลยก็คือ โอกาสที่จะร่ำรวย"
"เพราะจะไม่ทำงานก็ไม่ได้ เพราะต้องมีเงิน" ชายหนุ่มกล่าวเสริม
"ใช่.. และที่สำคัญ ตกงานก็ไม่ได้
เพราะเอาเงินในอนาคตมาใช้ในปัจจ
คนเหล่านี้จึงกอดงานเขาไว้แน่น
หมดโอกาสที่จะไปทำอะไรได้อีก"
เศรษฐีหยุดจิบน้ำ แล้วก็พูดต่อว่า
"มันก็แปลกดีนะ...
คนสมัยฉัน ส่วนใหญ่จะเก็บเงินที่ได้มาในวั
เอาไว้ใช้ในอนาคต
แต่คนสมัยนี้ กลับเอาเงินที่จะได้ในอนาคต
เอามาใช้ในวันนี้... หลายๆ ชีวิต จึงเหมือนแขวนอยู่บนเส้นด้าย
คนเหล่านี่น่าสงสารยิงกว่าคนกลุ
เพราะในจิตใจลึกๆ ของพวกเขานั้น มีความฝันว่าอยากร่ำรวย
คิดดูสิว่าคนเหล่านี้จะทุกข์ใจข
อยากจะรวย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะติดอยู่ในกับดักเสียแล้ว"
"ผมโชคดีจังที่สามารถตกงานได้..
ชายหนุ่มนึกเปรียบเทียบกับตัวเข
"ใช่... มันทำให้เธอยังมีโอกาสที่จะร่ำร
เศรษฐีพูดสนับสนุนเขา
"โอกาสก็ไม่มีเพราะเวลาหมดไปกับ
แถมเงินที่จะเอาไปต่อเงินก็ไม่ม
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้น
"ผมยังไม่เข้าใจเรื่อง เอาเงินไปต่อเงินครับ"
ชายหนุ่มเป็นฝ่ายถามขึ้นมา
"เรื่องเอาเงินไปต่อเงิน เอาไว้ฉันจะอธิบายให้ฟังทีหลัง"
เศรษฐีหันไปพูดกับชายหนุ่ม
"ที่ฉันเล่ามาทั้งหมด มันยังมีอีกหลายเรื่อง ที่เป็นกับดัก
ทำให้คนที่อยากรวย รวยไม่ได้ ฉันจึงอยากให้เธอเข้าใจ
เกี่ยวกับกับดักบนเส้นทางสู่ควา
การพนัน สาวงาม หรือ ความสุขส่วนตัว
ก็เป็นตัวทำให้คนล้มเหลวมามากต่
เพราะ... นำเงินออกไปใช้นอกระบบกับเรื่อง
เศรษฐีหยุดเพื่อมองดูว่า ชายหนุ่มตามเขาทันหรือไม่
"ผมจะเชื่อท่านทุกอย่างเลยครับ ขอให้บอก ให้แนะนำผมได้ทุกเรื่องครับ"
ชายหนุ่มกล่าวกับเศรษฐีด้วยหัวใ
"เธอโชคดีที่ไม่ได้เรียนจบสูงๆ โชคดีที่เป็นคนจน"
เศรษฐีเอ่ยขึ้น
"ทำไมถึงโชคดีล่ะครับ" ชายหนุ่มสงสัย
"หลายๆ คนที่เรียนจบสูงๆ มา มักจะเป็นน้ำที่เต็มแก้ว
หลายๆ คนที่เกิดมารวย มักจะไม่ติดดิน
เรื่องหน้าตาในสังคม อีกอย่างที่เป็นอุปสรรค"
เศรษฐีอธิบาย
ชายหนุ่มพยักหน้า ทั้งๆที่ไม่เข้าใจความหมายสักนิ
"เอาเป็นว่า เธอรู้แล้วว่า มีกับดักต่างๆ บนเส้นทางมากมาย
ที่จะคอยกันเธอไม่ให้ประสบความส
ฉันจะให้แค่คำปรึกษาแก่เธอ อย่างเดียว
นอกนั้นเธอต้องทำด้วยตัวของเธอเ
เศรษฐีมองเข้าไปที่ดวงตาชายหนุ่
"ตอนนี้เธอมีเงินอยู่เท่าไรนะ"
"สองบาทครับ" ชายหนุ่มตอบด้วยความภาคภูมิใจ
แต่เศรษฐีแอบยิ้มที่มุมปากด้วยค
"อืมมมม... เธอเริ่มต้นจากเงินสองบาทของเธอ
แต่ฉันจะแนะนำบางอย่างให้"
"อะไรหรือครับ" ชายหนุ่มสงสัย
"ในทุกวัน เธอต้องมีรายจ่ายประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร
ค่าข้าวของเครื่องใช้... เธอจงหาวิธีให้มีเงินมาจ่ายสิ่ง
โดยที่เธอไม่ต้องทำอะไรให้ได้..
"มีเงินโดยไม่ต้องทำอะไร... มันจะเป็นไปได้อย่างไรครับ"
"เริ่มต้นก็คงต้องทำอะไรๆ นั่นแหล่ะ แล้วเมื่อถึงเวลาหนึ่ง
ก็หยุดทำ แต่ยังได้เงินอยู่... ส่วนจะทำอย่างไรนั้น
เธอต้องมองหาวิธีเอาเอง... โอกาสมีเสมอในท้องถนน
เธอจงหาโอกาสนั้นให้เจอ..." เศรษฐีตอบคำถาม
"อีกอย่าง... ฉันให้ที่พักเธอที่นี่ เพราะเราจะต้องคุยกันบ่อยๆ"
เศรษฐีตบไหล่ชายหนุ่มเบาๆ อย่างเอ็นดู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น