หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556

ชาวนากับเศรษฐีไม้เท้าทองคำ บทที่ 1

ชาวนากับเศรษฐีไม้เท้าทองคำ บทที่ 1 ...โอกาส...

บทความดีๆ จาก http://www.eclubthai.com


มีพระราชาอยู่เมืองหนึ่งปกครองราษฎรให้อยู่เย็นเป็นสุข สงบมาโดยตลอดเมื่อบ้านเมืองสงบสุข พระราชาก็รู้สึกเบื่อๆ ที่ไม่มีอะไรทำพระราชามีราชธิดาแสนสวย ร่ำลือไปทั่วแคว้นแดนต่างๆองค์ชายน้อยใหญ่ ต่างก็หมายปองราชธิดาองค์นี้กันทั้งนั้นพระราชาเอง ก็อยากได้องค์ชายที่มีความสามารถที่สุดถึงแม้ยังไม่ถึงเวลาที่จะทรงให้อภิ เสกก็ตามพระราชาก็ให้อำมาตรส่งเทียบเชิญไปยังเมืองต่างๆเพื่อนเชิญองค์ชาย น้อยใหญ่ ให้มาร่วมพบปะสังสรรพระราชาเองก็หวังที่จะใช้ช่วงเวลานั้น หมายตาองค์ชายไว้

หลังจากองค์ชายจากเมืองน้อยใหญ่ มาพร้อมเพรียงกันหมดทุกพระองค์แล้ว...พระราชาก็ทรงประกาศว่า วันพรุ่งนี้จะออกประพาสป่าและให้องค์ชายทุกพระองค์ทรงติดตามไปด้วยเหล่าองค์ ชายต่างตื่นเต้นเป็นการใหญ่
เพราะเดาใจพระราชาไว้ว่า คงจะต้องให้มีการแข่งขันอะไรบางอย่างอย่างแน่นอน...

ณ ป่าเขาลำเนาไพรห่างไกลเมืองฝั่งตะวันออกขบวนประพาสป่าของพระราชากับเหล่า องค์ชายทั้งหลายก็เคลื่อนขบวนมาถึงบึงใหญ่แห่งหนึ่งด้วยความตกใจจากขบวนของ พระราชาทำให้ฝูงห่านในบึง ต่างส่งเสียงร้องเอะอะโวยวายเป็นการใหญ่...พระราชาได้ยินเสียงห่านดังแบบ นั้นก็เกิดความคิดที่จะลองภูมิเหล่าองค์ชายทั้งหลาย...จึงทรงถามออกมาว่า...

"ใครตอบได้บ้างว่า เหตุใดห่านจึงร้องเสียงดังกว่า เป็ดไก่หลายเท่านัก"
เหล่าองค์ชายทั้งหลาย ต่างแย่งกันยกมือเพื่อขอตอบคำถามเพื่อจะได้ทำคะแนนให้ตนเอง เพราะพระราชธิดาเองก็ทรงกำลังตั้งใจฟังคำตอบอยู่เช่นกัน...พระราชาทรงชี้ไป ที่องค์ชายที่อยู่ด้านหน้าสุด...องค์ชายรีบตอบด้วยความมั่นใจในทันทีว่า

"เพราะห่านมันมีคอยาวกว่า เป็ดและไก่พะยะค่ะ จึงทำให้มันส่งเสียงได้ดังกว่า"...
พระราชาพยักหน้า พร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า"มีท่านใด มีความเห็นแตกต่างจากคำตอบนี้บ้างไหม"
ทุกพระองค์ต่างส่ายหน้า แสดงว่าต่างก็คิดเช่นเดียวกับองค์ชายองค์นั้น...

ขณะนั้นเอง ทหารก็ควบคุมตัวหนุ่มน้อยชาวนาคนหนึ่งเข้ามาพอดีพระราชาหันไปมองและทรงตรัส ถามทหารไปว่า เกิดอะไรขึ้นทหารรายงานว่า เห็นชายคนนี้มายืนทำลับๆ ล่อๆ อยู่ตรงต้นไม้ต้นโน้นกระหม่อมเกรงจะมาทำมิดีมิร้าย จึงนำตัวมาให้ท่านสอบสวนพะยะค่ะ
พระราชาจึงทรงตรัสถามชายหนุ่มไปว่า"เจ้าเป็นใคร มาจากไหน และมาทำอะไรที่นี่"นุ่มน้อยชาวนาตอบด้วยเสียงตะกุกตะกักว่า"ข้าพเจ้าเป็น ชาวนาบ้านนอก หากินอยู่บริเวณนี้ทุกวันวันนี้เห็นมีคนมากมาย ก็เลยเข้ามาดูขอรับ"

พระราชายังไม่เชื่อเลยทีเดียวนัก จึงทรงสั่งให้ควบคุมตัวเอาไว้ก่อน...ก่อนที่ทหารจะพาตัวออกไป พระราชาทรงนึกสนุกอยากรู้ว่าชาวนาบ้านนอก จะมีปัญญาตอบคำถามเหมือนเหล่าองค์ชายได้หรือไม่...ก็เลยทรงถามออกมาว่า..." เดี๋ยวก่อน ไหนเจ้าลองตอบคำถามข้าสิว่าทำไม ห่าน จึงส่งเสียงดังกว่าเป็ดและไก่หลายเท่านัก"ชาวนาตอบคำถามด้วยความใสซื่อ ว่า"มันเป็นธรรมชาติพระเจ้าค่า"

เหล่าองค์ชายทั้งหลายได้ยินคำตอบแบบกำปั้นทุบดินของชาวนาก็พากันหัวเราะยกใหญ่...พร้องทั้งนึกสมเพศชาวนาที่หามีปัญญาอย่างพวกพระองค์
พระราชาจึงตรัสว่า..."เจ้าคงไม่รู้เหตุผลที่แท้จริงเพราะมันจำเป็นต้องใช้ สติปัญญาข้าจะบอกให้เจ้ารู้ก็ได้ว่า องค์ชายทุกพระองค์ทรงให้เหตุผลว่า เป็นเพราะคอห่านยาวกว่าคอสัตว์อื่นๆจึงทำให้ส่งเสียงได้ดังกว่า..."
หนุ่มน้อยชาวนาได้ฟังพระราชาตรัสเช่นนั้นก็ทรงตอบกลับไปว่า
"มันเป็นธรรมชาติจริงๆ พระเจ้าค่ะ"พระราชาได้ฟังดังนั้น ก็ยังคงคิดว่า ชาวนาคงโง่ถึงขนาดฟังเหตุผลแล้วก็ยังไม่เข้าใจ...แต่ก็ทรงเปิดโอกาสให้ชาวนา ทรงตรัสถามว่า"ทำไมเจ้าจึงคิดว่ามันเป็นธรรมชาติล่ะ"
ชาวนาจึงตอบกลับไปว่า"ท่านพระราชาทรงเคยได้ยินอึ่งอ่างร้องไหมพระเจ้าค่ะ อึ่งอ่าง มันมีคอสั้นเพียงนิดเดียว แต่ทำไมมันจึงสามารถส่งเสียงร้องได้ดังกว่าสัตว์อื่นๆ ล่ะพระเจ้าค่ะ"พระราชาได้ฟังดังนั้น ก็นั่งนิ่งไปครู่ใหญ่ๆ เลยทีเดียวเหล่าองค์ชายทั้งหลายต่างก็เสียหน้าไปตามๆ กัน

พระราชาจึงหันเห สถานการณ์เพื่อกลบเกลื่อนเรื่องที่ผ่านมาบังเอิญหันไปเห็นป่าไผ่ ซึ่งมีหน่อไม้มากมายที่โผล่พ้นดินขึ้นมาพระองค์ก็เลยตรัสถามออกไปว่า"ใครรู้ บ้างว่า ทำไม หน่อไม้จึงงอกดันดินที่แข็งๆ ขึ้นมาได้"เหล่าองค์ชายทั้งหลาย ต่างก็แย่งกันยกมือเพื่อตอบคำถามทำคะแนนอีก...พระราชาทรงชี้มือไปที่องค์ชาย องค์หนึ่งองค์ชายองค์นั้น รีบตอบอย่างมั่นอกมั่นใจเต็มที่ว่า"เพราะหน่อไม้มันมีปลายแหลม มันจึงสามารถดันดินแข็งๆ โผล่ขึ้นมาได้พะยะค่ะ"พระราชาได้ฟังคำตอบก็พยักหน้าชื่นชมในความหลักแหลมของ องค์ชายองค์นี้..
"มีใครคิดเห็นเป็นอย่างอื่นไหม..."
พระราชาตรัสถามเงียบ... เพราะองค์ชายทุกองค์ ทรงคิดเช่นนี้ทั้งสิ้น
ด้วยความรู้สึกอยากเอาชนะหนุ่มน้อยชาวนาพระราชาจึงตรัสถามไปว่า"แล้วเจ้าล่ะ เจ้าชาวนา มีคำตอบเป็นอย่างอื่นไหม""มันเป็นธรรมชาติ พะยะค่ะ"หนุ่มน้อยชาวนาตอบ
เล่นเอาทุกคนเงียบ ไม่มีเสียงอื้ออึงอะไรทั้งสิ้นต่างกับคราวก่อนที่ได้ยินคำตอบนี้แล้วพากัน หัวเราะเยาะพระราชาจึงตรัสถามออกไปว่า"ทำไมล่ะ เจ้ามีเหตุผลอย่างไรหรือ?"องค์หญิงซึ่งนั่งฟังนิ่งๆ อยู่เนิ่นนานให้ความสนใจหนุ่มน้อยชาวนามากยิ่งขึ้นทรงใจจดใจจ่อรอฟังคำตอบ จากเขาอย่างตั้งใจเป็นครั้งแรกที่ไอ้หนุ่มลูกทุ่งได้เห็นพระพักตร์ของพระราช ธิดาชัดๆ...หัวใจของเขาเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาข้างนอก ร่างกายร้อนวู๊วาบไปหมดตั้งแต่เกิดมาเป็นผู้เป็นคน ยังไม่เคยเห็นใครสวยงามขนาดนี้มาก่อนเลย...


"ว่าไงล่ะ เจ้าหนุ่มชาวนา หาเหตุผลไม่ได้ล่ะสิคราวนี้"
พระราชาตรัสถามขึ้น

"มันเป็นธรรมชาติจริงๆ พระเจ้าข้า"ชาวนาตอบกลับไป พร้อมกับอธิบายต่อว่า"พระราชาลองดูตรงนั้นสิพะยะค่ะ"พร้อมกับชี้มือไปที่โคน ต้นไม้ใกล้ๆ กับป่าไผ่นั่นเอง"เห็ดต้นนั้น ปลายมันก็ไม่ได้แหลมอย่ากับหน่อไม้
แต่มันก็สามารถดันตัวเองโผล่พ้นดินขึ้นมาได้พะยะค่ะ"องค์ชายทั้งหลาย ต่างก็พากันเสียหน้าส่วนพระราชาเองกลับรู้สึกชื่นชมไอ้หนุ่มชาวนาขึ้นมาแล้ว สิ"เจ้านี่ ไม่ธรรมดาเลยนะ นี่หากว่าเจ้าเป็นหนึ่งในองค์ชายเหล่านี้
เจ้าคงได้คะแนนไปเยอะเลยทีเดียวเสียดายที่เจ้าเป็นแค่ชาวนา ไม่คู่ควรกับราชธิดาของเรา"ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เหล่านางใน นางสนม ซังกึม ทั้งหลายต่างส่งเสียงวี๊ดว๊าย บ้างก็ส่งเสียงกริ๊ด ด้วยความตกใจเพราะที่พื้นตรงนั้น มีหนูนาตัวหนึ่ง วิ่งทะเล่อละล่าเข้าไปหากลุ่มพระสนมเหล่านั้น...เสี้ยววินาทีนั้นเอง... ทหารที่อยู่ใกล้ๆ ตรงนั้น ก็ใช้ท่อนไม้ฟาดลงไปที่ตัวหนู... เจ้าหนูผู้โชคร้าย ก็เลยต้องตาย...หลังจากทุกอย่างสงบลง
ก็ถึงเวลากลับวังของพระราชาและเหล่าองค์ชายทั้งหลายเพื่อร่วมงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้...

เป็นเพราะกามเทพ แผงศรใส่พระธิดาหรือประการใดมิทราบได้...พระธิดา เกิดความรู้สึกพึงพอใจในตัวหนุ่มน้อยชาวนาเข้าแล้วสิ...หนุ่มน้อยชาวนาก็ เช่นเดียวกัน... แต่ด้วยความต่ำต้อยของตน..ก็ได้แต่หักห้ามใจตัวเองไว้เงียบๆ...

ก่อนพระราชาจะเดินทางกลับ ได้ตรัสกับหนุ่มชาวนาว่า..."เอาอย่างนี้ เจ้าหนุ่มชาวนา ในฐานะที่เจ้าสามารถให้เหตุผลกับคำถามของเรา ทำให้พวกเราเข้าใจธรรมชาติมากขึ้น"พระราชาหยุดตรัส และหันไปมองทางพระธิดาของพระองค์...แล้วก็หันมาตรัสต่อว่า"อีก 1 ปีข้างหน้า อายุของพระธิดาของเราจะถึงเวลา อภิเสกสมรส และอีก 1 ปีข้างหน้า
เราจึงจะคัดเลือกตัวราชบุตรเขยอีกครั้งว่าจะเป็นผู้ใดเมื่อเจ้าสามารถชนะองค์ชายทั้งหลายได้ในวันนี้เราก็จะให้โอกาสเจ้า"
พระราชาหยุดคิดนิดหนึ่ง แล้วตรัสต่อว่า"เพื่อให้เกิดความคู่ควรกับธิดาของเราซึ่งโดยขนบธรรมเนียมประ เพนี แต่โบราณมาแล้วจะต้องอภิเสกกับองค์ชายเท่านั้นเมื่อเจ้าเลือกเกิดไม่ได้ จึงไม่ได้เกิดเป็นองค์ชายแต่เราก็จะให้โอกาสเจ้า โดยเจ้ามีเวลา 1 ปีเจ้าจงสร้างตัวเองให้ร่ำรวยขึ้นมาให้ได้โดยจะต้องให้รวยที่สุดของประชาชน ในเมืองของเรา"

"แต่มีเงื่อนไขว่า... เจ้าต้องสร้างความร่ำรวยขึ้นมาจากทุนที่เราจะให้แก่เจ้าในวันนี้...และทุน ที่เราจะให้แก่เจ้าก็คือ...หนูตายหนึ่งตัว ตัวนั้น"พระราชาชี้ไปที่หนูนาที่ถูกตีจนตาอยู่ตรงหน้าทหารที่ตีมัน
ทหารรีบหยิบหนูตายเข้ามาส่งให้หนุ่มน้อยชาวนาอย่ารู้ใจพระราชา...
หนุ่มน้อยชาวนาหยิบหางหนูไว้แล้วปล่อยให้ตัวหนูห้อยโตงเตงพร้อมกับการจากไปของขบวนประภาสป่าของพระราชา...รวมทั้งพระราชธิดาที่แสนจะสวย
หนุ่มน้อยชาวนา ยกหนูขึ้นมามองดูพร้อมกับคิดในใจว่า...

"สร้างตัว จากหนูตายหนึ่งตัว..."


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น