THAI SILK INDIGO ; Silk Kram Textile.

 Before dying with Kram we prepare silk textile by hand make .

  

silk textile 

  

1.

 2.

 3.

 4.

 5.

 6.

 7.

 8.

 9.

 10.

 11.

 12.

 13.

 14.

 15.

 16.

 18.

 19.

 20.

 21.

 22.

 23.

 24.

 25.

 26.

THAI SILK INDIGO ; How to get Kram dye

    Indigo is a color named after the purple dye derived from the plant Indigofera tinctoria in Thailand was call Kram.Indigo is a dye different from any other. It is dyed through a living fermentation process that does not require any mordant.


   My country had  Thai silk Kram production group was name Nonsaad silk Kram. There is small group  they will make after harvest season. I had leaning about Silk Kram procedure and will explain about this.

1. Prepare Kram .

 2.Kram be immersed in water long 2 day.

 3. Put Red lime to the Kram for sedimentation.

 4 Then we get Kram dye.

 5. Prepare material was local wood Then  we had to material to fire . we got the ash after that mix ash with water  it become Dang for mix Kram dye. 

6.Mix Dang and Kram.

6. Dying with Kram.

7.Captive sun to dry.

 8.Thai silk Kram production.

To continuous...Thai silk Kram products.

นานาเรื่องราว กับ OBD II : คิดจะสร้าง Scan tool

    พอหอมปากหอมคอกับ OBD II เมื่อตอนที่แล้วคราวนี้ก็คันไม้คันมืออยากสร้าง Scan too ขึ้นมาซะงั้น....,,,,ก็เลยทำการเซิ่นหาข้อมูลจากท่านอาจารย์กู๋ผู้รู้ทุกอย่าง ได้ความมาหลายอย่างเหมือนกัน นะเนี่ยทั้งวงจร โปรแกรม และก็โปรโตคอลการเชื่อมต่อ...มาให้พิจารณากัน

วงจรที่ 1 ที่มา http://pinoutsguide.com/CarElectronics/obd2_simple_cable_pinout.shtml

วงจรที่ 2 ที่มา http://www.planetfall.com/cms/content/opendiag-obd-ii-schematics-pcb-layout

วงจรที่ 3 ที่มา http://blog.perquin.com/blog/category/odbii/

     ได้วงจรมาสามวงจร ลองๆพิจารณาก็ก็เหมือนกันคือแปลงสัญญาณจาก OBD II เป็นสัณญาณ

 RS232 ที่สามารถติดต่อกับ PC ได้ซึ่งสัญญาณที่มาจาก OBD II Port ก็มีสองสัญญาณ คือ K และ L แต่ก็มีวงจรที่สาม ที่ไม่ใช้สาย L จากตอนที่แล้วพอได้ความว่า ขา K เป็นขา Data และ ขา L ก็เป็น Data ซึ่งไม่มีความจำเป็นบางครั้งอาจไม่มีก็ได้ .......เอ..แล้วจะเลือกวงจรไหนดี ไว้ต่อตอนหน้าล่ะกันครับ 

นานาเรื่องราว กับ OBD II

OBD II มันคืออะไร

OBD-II ย่อมาจาก On-Board Diagnostics generation II เป็นมาตรฐานที่กำหนดขี้นร่วมกันโดยSAE และ ISO โดยกำหนดมาตรฐานวิธีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางดิจิตอลระหว่างระบบคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งบนรถยนต์ ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยไอเสีย (Emission) กับเครื่องสแกนข้อมูล OBD-II ทั้งด้านฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ ตำแหน่งการติดตั้ง รหัสบันทึกความบกพร่องที่ตรวจพบ (Malfunction Indicator Light : MIL) โดยมีผลบังคับใช้สำหรับรถยนต์ที่จำหน่ายในอเมริกาตั้งแต่รุ่นปี 1996 เป็นต้นมา ข้อมูลที่อ่านจากระบบจะบอกให้ทราบถึงสถานะของส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องกับควบคุมเครื่องยนต์เกือบทั้งหมด รวมทั้งระบบมี ECU ต่อร่วมกันหลายตัวในรถยนต์คันเดียวกันเป็นnetwork เช่นBody contro and Chassis control

ซึ่งก็มีมาตรฐานต่างๆ ดังนี้

ลักษณะของคอนเน็คเตอร์ OBD II (Front view)

CAN Protocol Pins 

Pin #	Description
5	Ground
6	Data
14	Data
16	Power

ISO and KWP Protocol Pins 

Pin #	Description
5	Ground
7	Data
15	Data (this pin is optional and may not be present)
16	Power

VPW Protocol Pins 

Pin #	Description
2	Data
5	Ground
16	Power

PWM Protocol Pins 

Pin #	Description
2	Data
5	Ground
10	Data
16	Power

ซึ่งมาตรฐานต่างๆ ก็แล้วแต่ทางผู้ผลิตรถยนต์ว่าใช้มาตรฐานไหน

การจะใช้งาน OBDII ได้นั้นก็ต้องมีอุปกรณ์ ที่เค้าเรียกว่า Scan tool ซึ่งสามรถเชื่อมกับคอมพิวเตอร์ หรือ จะเป็น แฮนด์เฮล ก็สะดวกไม่แพ้กัน ความสามารถของ Scantool  ทำได้หลายอย่าง อาทิเช่น

**อ่านรหัสข้อมูลและบอกความหมายของความบกพร่องที่ ECU ตรวจพบและเก็บไว้ทั้งที่เป็น รหัสทั่วไป และรหัสเฉพาะสำหรับรถยนต์แต่ละยี่ห้อ มากกว่า 3,000 รหัส  สามารถดูโค้ดได้จาก http://www.obd-codes.com/

**ลบหรือเคลียร์รหัสที่บันทึกไว้ได้

**ดับไฟ Check Engine เตือนที่ติดค้างได้ (MIL)

**แสดงค่าสถานะเซ็นเซอร์ต่างๆ ที่ ECU มองเห็นแบบเรียลไทม์ได้เช่น

**Engine RPM : ความเร็วรอบเครื่องยนต์

**Calculated Load Value : โหลดของเครื่องยนต์ที่ ECU คำนวณ

**Coolant Temperature : อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น

**Fuel System Status : สถานะของระบบจ่ายน้ำมัน

**Vehicle Speed : ความเร็วของรถยนต์ที่วิ่งอยู่

**Short Term Fuel Trim : ค่าของทริมน้ำมันแบบอัพเดทเร็ว

**Long Term Fuel Trim : ค่าของทริมน้ำมันแบบอัพเดทช้า

**Intake Manifold Pressure : แรงดันในท่อร่วมไอดี

**Timing Advance : องศาไฟจุดระเบิด

**Intake Air Temperature : อุณหภูมออากาศที่ท่อร่วมไอดี

**Air Flow Rate : อัตรการไหลของอากาศ

**Absolute Throttle Position : ค่าตำแหน่งของลิ้นปีกผีเสื้อ

**Oxygen sensor voltages/associated short term fuel trims : แรงดันจากออกซิเจนเซ็นเซอร์

**Fuel Pressure : แรงดันของน้ำมันเชื้อเพลิง

**และอื่นๆอีกมากมาย

ถ้ามี Scan tool  ไว้ใช้สักตัวคงเท่น่าดูหละคร๊าบๆๆ ไว้ต่อตอนหน้านะครับ   ^ ^

ที่มา  www.auterraweb.com/obdiipinout.html , www.obdthailand.com/